วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2552

คำคม..ของปราชญ์

ข้าฯไม่เคยนั่งอยู่บนรั้ว...ข้าฯจะอยู่ข้างใดข้างหนึ่งเสมอ.....
( Harry S. Truman - ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 33 )

เขาไม่รู้ ว่ามันเป็นไปไม่ได้...เขาเลยทำมันสำเร็จ.....
( Jean Cocteau - นักเขียน ผู้สร้างภาพยนตร์ชาวฝรั่งเศส )

ในบริษัทโฆษณา...ถ้ารู้จักทำตัวให้ลูกค้าขาดท่านไม่ได้...
ท่านจะไม่มีโอกาสถูกไล่ออก.....
( David Ogilvy - ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทโฆษณา โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ )

งานที่ทำยากยิ่ง...คือ...การทำให้ดูเหมือนงานยุ่ง ทั้งๆที่ไม่มีงานทำ.....
( George Coleman - นักเขียนชาวอังกฤษ )

เคล็ดลับของธุรกิจ...คือ...การล่วงรู้ข้อมูลที่ผู้อื่นไม่รู้.....
( Aristotle Onasis - นักธุรกิจการเดินเรือชาวกรีก )

จงซื้อที่ดินไว้...เพราะมันไม่สามารถผลิตเพิ่มได้อีก.....
( Mark Twain - นักเขียนอารมณ์ขัน ชาวอเมริกัน 1853 - 1910 )

เมื่อท่านบอกใครว่า "จะทิ้งมรดกไว้ให้"...
สิ่งเดียวที่ควรทำ คือ...ตายแต่โดยเร็ว.....
( Samuel Butler - นักเขียนชาวอังกฤษ )

"ธุรกิจ" มีหน้าที่หลักของมัน 2 ประการ...คือ...
การตลาด และ นวัตกรรม ( การเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม )
( Peter F. Drucker - ผู้เชี่ยวชาญวิชาการบริหาร ชาวอเมริกัน )

ผู้ที่ใช้พลัง และ จินตนาการ หาทางเพิ่มค่าเงินของลูกค้าในสินค้าของตนเอง
มีแต่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจของเขา.....
( Henry Ford - เจ้าของและผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมรถยนต์ ชาวอเมริกัน )

เรายังรู้ไม่ถึง เศษหนึ่งส่วนล้าน ของหนึ่งเปอร์เซนต์ ของสิ่งที่มีอยู่ในโลกนี้.....
( Thomas Edison - นักประดิษฐ์คิดค้น ชาวอเมริกัน 1847 - 1931 )

ผู้ที่มีข้อโต้แย้งอ่อน...มักจะใช้เสียงที่ดังกว่า.....

ผู้ที่ยิ่งรู้น้อย...ยิ่งอยากจะพูดมาก.....

"นักกฏหมาย"...ทำมาหาเลี้ยงชีพ โดยการพยายามตีความ
ในสิ่งที่นักกฏหมายอื่นเขียนเอาไว้.....
( Will Rogers - นักแสดง และ นักเขียนอารมณ์ขัน ชาวอเมริกัน 1879 - 1935 )

"ความเกียจคร้าน" คือ...นิสัยที่อยากจะพักผ่อนก่อนเหนื่อย.....
( Jules Renard - นักเขียนชาวฝรั่งเศส )

ทันทีที่ท่านเริ่มพูดว่า "จะทำให้อะไร ถ้าพ่ายแพ้"...ท่านก็ได้พ่ายแพ้แล้ว.....
( George Schultz - อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา )

เราต้องเชื่อเรื่องโชค...มิฉะนั้นแล้ว.....
เราจะอธิบายถึงความสำเร็จของผู้ที่เราไม่ชอบได้อย่างไร.....
( Jean Cocteau - นักเขียน และ ผู้สร้างภาพยนตร์ชาวฝรั่งเศส )

"โชค"...จะอยู่กับคนที่รู้จักใช้มันเสมอ.....
( Romain Rolland - นักเขียนชาวฝรั่งเศส )

ในกีฬากอล์ฟ...ยิ่งฝึกมากขึ้นเท่าใด...โชคจะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น.....
( Gary Player - นักกอล์ฟอาชีพชาวอังกฤษ เชื้อสายแอฟริกาใต้ )

โรงงานในอนาคต...จะมีลูกจ้างเพียงสองเท่านั้น...คือ.......
คนหนึ่ง...กับ สุนัขอีกหนึ่ง.....คน มีไว้เพื่อให้อาหารสุนัข...และ.....
สุนัข มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คนไปแตะต้องเครื่องจักร.....
( Warren G. Bennis - ประธานมหาวิทยาลัยซินซินนาติ )

เครื่องจักร...อาจสามารถทำงานแทนคนธรรมดา 50 คนได้...แต่.....
ไม่มีเครื่องจักรใด ที่จะทำงานแทนคนที่ไม่ธรรมดาเพียงคนเดียวได้....
( Tehyi Hsieh - นักการศึกษา นักเขียน และนักการทูต ชาวจีน )

ท่านไม่ต้องการปริญญา MBA จากฮาเวิร์ด...เพื่อที่จะรู้วิธีทำธุรกิจให้ขาดทุน.....
( Royal Little - ผู้ก่อตั้งบริษัท Textron ในสหรัฐฯ )

อย่าประเมินอำนาจของความสุภาพผิด...เพราะ...
อาจไม่มีใครสนองตอบ หรือจดจำความสุภาพของท่านได้...แต่.....
จะมีคนสนองตอบ หรือจดจำ...ความไม่สุภาพของท่านได้แน่ๆ............

เสื้อผ้าของสตรีควรกระชับพอ ที่จะแสดงความเป็นผู้หญิงได้...
และ...หลวมพอ ที่จะแสดงความเป็นสุภาพสตรีได้ เช่นกัน.......

ถ้าคุณรู้สึกตัวว่า "เมา"....ควรจะรีบเข้านอน......

จงให้ ผู้ที่รู้จักบุญคุณคน...มากกว่าที่เขาขอ.....

ถ้าต้องเล่นการพนัน...ต้องรู้กฏ 3 ข้อนี้ก่อนเล่น...คือ
กติกา วงเงิน และ เวลาที่จะเลิก.....

ให้คอแข็ง เพราะตั้งเป้าไว้สูงเกินไป...ดีกว่า...หลังค่อม เพราะตั้งเป้าไว้ต่ำเกินไป

มีเพียงปลาตายเท่านั้น...ที่ลอยตามกระแสน้ำ.....
( Malcolm Muggeridge - นักหนังสือพิมพ์ชาวอังกฤษ )

คนใหญ่บางคน อาจทำให้ผู้อื่นรู้สึกตัวลีบเล็ก...แต่......
คนที่ใหญ่จริง คือ ผู้ที่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าใหญ่ด้วย........
( G.K. Chesterton - จินตกวี ชาวอังกฤษ )

คุณพ่อผมได้พูดเสมอว่า..."ถ้าแกได้เพื่อนแท้ถึง 5 คนเมื่อตอนตายแล้วละก้อ...
ชีวิตของแก ถือว่าได้ประสบความสำเร็จแล้ว.........."
( Lee Iacocca - อดีตประธานบริษัทรถยนต์ ไครสเลอร์ ของสหรัฐฯ )

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ข้อคิด คำคมจาก ขงเบ้ง



ข้อคิด คำคมจาก ขงเบ้ง




  • ถ้าเป็นกษัตริย์แล้ว ไม่โลภ ก็เป็นกษัตริย์ ที่ดีไม่ได้ถ้าเป็นนักบวชแล้ว โลภ ก็เป็นนักบวช ที่ดีไม่ได้

  • คนฉลาดปราดเปรื่อง เขานั่งนิ่งสงวนคม

  • ไม้คดใช้ทำขอ เหล็กงอใช้ทำเคียว แต่ คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย

  • อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล

  • เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"

  • ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติ คือ ผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น

  • ยามเรืองรุ่งพุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า แม้เทวายังสยบหลบทางให้ จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องไห้วันหนึ่งแน่ คราวแพ้มี

  • เล่นหมากรุก อย่าเอาแต่บุกอย่างเดียว เดินหมากรุกยังต้องคิด เดินหมากชีวิต จะไม่คิดได้อย่างไร
    เมื่อเสียหลักก็ต้องหลบอย่างฉลาด เมื่อพลั้งพลาดต้องรู้หลีกใส่ปีกหาง ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆทำ ค่อยคลำทาง จึงจะย่างสู่จุดหมายเมื่อปลายมือ

  • เมื่อใครสักคนหนึ่ง ทำผิด ท่านอย่าเพิ่งตำหนิหรือต่อว่าเขา เพราะถ้าท่านเป็นเขาและตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นเดียวกับเขา ท่านอาจจะตัดสินใจทำเช่นเดียวกับเขาก็ได้

  • เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ไม่" หล่อนมีความหมายว่า "อาจจะ" เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "อาจจะ" หล่อนมีความหมายว่า "ใช่ หรือ ได้" เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า "ใช่ หรือ ได้" หล่อนไม่ใช่สุภาพสตรี (สุภาพสตรีจะไม่ตอบรับใครง่าย ๆ )

  • การบริหารคือการทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยมือผู้อื่น ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสามารถของตนอย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่นอย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่นอย่างเต็มที่

  • เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน ฉะนั้นจึงอย่าประมาท

  • อย่าไล่สุนัขให้จนตรอก อย่าต้อนคนให้จนมุม

  • ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน

  • น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำฉันใด เราก็กลายเป็นคนฉลาดในช่วงเวลาลำบากฉันนั้น

  • มียอดขุนพล มีคนฉลาดแต่หากชิงผลประโยชน์ก่อกวนกันเองย่อมมิอาจครองแผ่นดิน

  • ฉลาดแต่แต่เข้าข้างคนผิด ชีวิตก็บัดซบฉลาดแต่เข้ากับใครไม่ได้ ก็ไร้ประโยชน์ฉลาดแต่ขาดคุณธรรม ไม่ทำให้เจริญ

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

4 ความเข้าใจผิด ของชาวพุทธ

โพสต์ทูเดย์ เว็บไซท์ วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

รายงานโดย :โยธิน อยู่จงดี


เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนในร้านกาแฟ เราได้หยิบหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งเป็นปกสีดำ มีรูปการ์ตูนเด็กผู้ชายหน้าตาตื่นเต้นเต็มไปด้วยความกระหายใคร่รู้ วาดด้วยลายเส้นสมัยใหม่ชื่อ “ข้างในนั้น” ในนี้มีอะไร


เราเปิดอ่านด้วยความสนใจ โดยไม่คาดหวังว่าจะได้อะไรจากหนังสือเล่มนี้ แต่เรากลับพบว่าเนื้อหาภายในคล้ายตำราข้อสอบฉบับแหวกแนวแต่เข้าใจง่ายเล่มนี้ ทำให้เราสะดุดและฉุกคิดอะไรหลายอย่างถึงสิ่งที่คนไทย เรียนรู้มาแต่เกิด นั่นคือเรื่องพระพุทธศาสนา ความเข้าใจ แนวคิดและวิธีปฏิบัติหลายๆ อย่างในชีวิตประจำวัน ฝังอยู่ในสายเลือดให้รู้จัก ความอดทน อดกลั้น การให้อภัย ความเมตตา ที่สำคัญคนไทยเคยรู้จักความมีสติคิดก่อนทำ นับเป็นเรื่องที่ดี แต่ยังมีสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อีกหลายอย่าง ทำให้เราไม่สามารถเข้าถึงการปฏิบัติธรรมที่แท้จริง


การนั่งสมาธิ คือการบังคับจิต ให้นิ่งจริงหรือ??? การนั่งสมาธิ เป็นเรื่องพื้นฐานของการปฏิบัติธรรมเพื่อเจริญ สมาธิ สติ และปัญญา แต่ทำไมเราถึงไม่สามารถนั่งสมาธิได้เป็นเวลานานๆ ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงรู้สึกว่านั่งสมาธิแล้วไม่ได้รู้สึกสงบ เหมือนที่หนังสือธรรมะหลายๆ เล่มบอกกล่าว ผลสุดท้ายการนั่งสมาธิกลายเป็นของแสลงสำหรับคนที่นั่งสมาธิไม่ได้


ศุภฤกษ์ สกุลชัยพรเลิศ อดีตตัวแทน คณิตศาสตร์โอลิมปิก 2 สมัย และเป็นเจ้าของสถาบันกวดวิชาคณิตศาสตร์ Sup'k Center และเจ้าของหนังสือ “ข้างในนั้น” ซึ่งเป็นหนังสือธรรมะสมัยใหม่ เผยความจริงง่ายๆ ของการปฏิบัติธรรม ที่หลายๆ คน ผู้ไม่รู้เข้าใจผิดมาโดยตลอดเกี่ยวกับการนั่งสมาธิว่า การนั่งสมาธิควรจะนั่งด้วยความรู้สึกตัว เวลานั่งๆ อยู่ จิตเผลอไปคิด ก็รู้ทัน จิตเผลอไปเบื่อ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้อยากเบื่อ ก็รู้ทัน ท้ายสุดจิตเกิด ความสุข ก็แค่รู้ทัน แล้วก็จะเห็นเองว่า จิตเกิดความสุขได้เอง (เนอะ) ทั้งๆ ที่ตอนเราสั่งให้สุข มันก็ ไม่เห็นจะสุขทันทีตามใจอยาก แต่พอเหตุถึงพร้อม มันก็เกิดความสุขได้เอง นั่นก็จะทำให้เด็กได้เรียนรู้ว่า ความสุขที่เกิดก็เป็นอนัตตา


“คนทั่วไปต้องการนั่งเพื่อให้ได้ความนิ่งๆ และนานๆ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด คนทั่วไปจะหลงคิดผิดๆ ไปเองว่า หากเรานั่งสมาธิจนกระทั่งจิตนิ่งถาวรคง จะดี บรรลุได้ง่าย


การที่เรานั่งสมาธิเพื่อเอาความนิ่ง จะได้เรียนรู้อะไร นอกจากเรียนรู้ความนิ่ง? ไม่ได้บรรลุนิพพาน ไม่ได้เข้าใจความจริงอะไร หรืออีกกรณี หากนั่งเพ่งจ้องจิตให้นิ่ง อาจจะเครียดได้


การนั่งสมาธิที่ถูกต้องตามพุทธพจน์ คือ นั่งด้วยความรู้สึกตัว นั่งเพื่อเรียนรู้ความจริงของกายใจตนเองในแง่ไตรลักษณ์ เพราะเมื่อเรียนรู้ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว ด้วยสัมมาทิฐิ จิตจะค่อยๆ เกิดปัญญา เข้าใจตนเอง เข้าใจโลก เข้าใจชีวิต ถอดถอนจากความยึดมั่นในตัวกูของกู และพ้นจากทุกข์ พบความสุขที่แท้ได้ในที่สุด” ศุภฤกษ์ อธิบายเพิ่มเติม ถ้าหากดูประวัติของเขาแล้ว เขาน่าจะเป็นนัก คณิตศาสตร์ระดับประเทศมากกว่า แต่ด้วยความ ใฝ่รู้ศึกษาปฏิบัติธรรมทำให้เขารู้ถึงสิ่งที่เด็กๆ และคนทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องการทำสมาธิ และอีกหลายๆ เรื่องจากคำถามของเด็กๆ ในสถาบันที่ชายคนนี้สอน ซึ่งสามารถติดต่อขอรับหนังสือ “ข้างในนั้น” ได้ที่เว็บไซต์ www.supkcenter.com


ธรรมะสอนให้เรารู้จักอดทนอดกลั้น ให้อภัย แต่ไม่ใช่ให้จมอยู่ในกองทุกข์ !!!


สำหรับคนไทยเมื่อมีปัญหาเรามักจะยอมกันได้เสมอ แต่ในหลายๆ เรื่อง ซึ่งเป็นการกดขี่ข่มเหง รังแก เป็นเรื่องที่ไม่ควรยอมให้อภัย จะต้องอดทนให้เขากดขี่ข่มเหงไปตลอดหรือ พระศรีญาณโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระรามเก้ากาญจนาภิเษก ได้ให้คำตอบว่า เป็นเรื่องถูกต้องแล้วเพราะพระพุทธองค์ทรงสั่งสอนให้คนเราเอาชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ เอาชนะความ ตระหนี่ด้วยการให้ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ไม่ต้องเข้าไปพัวพันอยู่ในบ่วงกรรม


นี่คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอนสั่ง เพราะถ้าเมื่อเราถูกกระทำแล้วโต้ตอบด้วยวิธีการเดียวกัน จะกลายเป็นความแค้นผูกพยาบาทต่อกันข้ามภพข้ามชาติไม่มีจบสิ้น คำถามก็คือ แล้วต้องยอมเสมอไปหรือเปล่า คำตอบคือเปล่า พระธรรมสอนให้รู้จักความอดทนอดกลั้น รู้จักให้อภัย แต่ไม่ได้บอกว่าให้ยอมแพ้


เมื่อเกิดปัญหาสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นมา ต้องรู้จักวิธีการแก้ด้วยสติสัมปชัญญะ แก้ด้วยวิธีการที่เหนือชั้นกว่า คนอื่นทำแย่ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องใช้วิธีการแย่ๆ โต้ตอบกลับไป ใช้สติตริตรองหาทางออกที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด



ห้ามโกหก ทำได้ยากจริงหรือ??? “มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ” การโกหกเป็นสิ่งไม่ดี แต่คนเราก็มักจะโกหก เพื่อการเอาตัวรอดอยู่เสมอ ทำให้ใครหลายๆ คนมักมองศีลข้อนี้เป็นเรื่องฝืนธรรมชาติ พระศรีญาณโสภณ ได้ให้คำอธิบายถึงเรื่องการโกหกที่หลายๆ คนมักปฏิบัติไม่ได้ไว้ว่า การโกหกนั้นไม่ว่ามองในมุมไหนก็เป็นเรื่องไม่ดีทั้งสิ้น เป็นสิ่งที่ให้โทษแก่ผู้อื่น แต่โดยธรรมชาติของมนุษย์แล้วไม่ได้โกหกเพื่อความอยู่รอด แต่โกหกเพราะเกิดความโลภ เกิดกิเลส เราถึงได้โกหกเพื่อให้ได้มา หรือโกหกเพื่อปกปิดความจริง แต่การโกหกก็มีข้อยกเว้นเช่นกัน เช่น การพูดโดยเจตนาที่ดี อย่างกรณีผู้ป่วยหนัก แต่ญาติไม่อยากให้รู้ความจริง เพราะรู้ไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรๆ ดีขึ้นมา มีแต่คนไข้จะเสียกำลังใจ พาให้อาการทรุดหนักลงกว่าเดิม ก็ต้องพูดโดยใช้กุศโลบาย ซึ่งเป็นอุบายที่ดี ทำให้คนไข้หรือผู้ฟังมีความสบายใจ จนเมื่อถึงเวลาที่เห็นว่าคนไข้รับความจริงได้แล้ว จึงค่อยบอกออกไปอย่างนี้ไม่เรียกว่าเป็นการโกหก ไม่ผิดศีลเพราะทำด้วยเจตนาที่ดี การตีความจึงมองที่เจตนาเป็นหลัก หรืออย่างเรื่องข้อมูลความมั่นคงของประเทศ ถามว่าจำเป็นไหมที่ต้องเอามาเปิดเผยให้รู้ทั้งหมด คำถามต่อมาก็คือรู้แล้วมีประโยชน์อะไร ถ้ารู้แล้วไม่มี
ประโยชน์ มีแต่โทษถึงความมั่นคงของชาติ ก็ไม่จำเป็นต้องเอามาเปิดเผย อาจจะตอบแบบเลี่ยงๆ แต่อย่าบิดเบือนไปจากความจริง เพราะถ้าบิดเบือนไปจากความจริงแล้วเกิดโทษต่อประชาชน อย่างนี้ผิดศีลไม่ควรทำ ที่สำคัญศีลที่ว่าด้วยการห้ามพูดปด ไม่ได้จำเพาะอยู่เพียงการโกหกเท่านั้น ยังหมายความรวมถึง การนินทาลับหลัง การใส่ร้าย การพูดจาด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งล้วนแต่เป็นคำพูดที่ให้โทษแก่ผู้อื่นล้วนผิดศีลข้อนี้ ทั้งสิ้น


บริจาคมาก ได้บุญมาก ??? เป็นความเชื่อที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็น เช่นนั้น บริจาคเงินแสนได้บุญมากกว่าเงินร้อย ความจริงแล้วเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า “ในเรื่องของการทำบุญ เราต้องเข้าใจก่อนว่าบุญคืออะไร การทำบุญเป็นเครื่องมือชำระจิตใจให้รู้จักการลดละกิเลส รู้จัก การเสียสละ การให้ ไม่ยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของตน มีมากก็ชำระมาก มีน้อยก็ชำระน้อย ตามแต่กำลังของแต่ละคน แต่การวัดว่าใครได้บุญมากบุญน้อยนั้นวัดกันไม่ได้ เพราะท้ายที่สุดเมื่อทำบุญแล้วความสุขก็บังเกิดแก่ผู้ที่ทำบุญทุกคน แต่ถ้าถามว่าแล้วคนที่ได้เงินมาโดยไม่สุจริตเป็นพวกค้ายา หรือร่ำรวยโดยไม่ชอบ มาทำบุญบริจาคเป็นแสนเป็นล้านแล้วจะได้บุญมากหรือเปล่า ต้องตอบว่า ได้แต่ไม่เต็มที่ เขาทำบุญคนก็อนุโมทนาสาธุ แต่ที่มาของเงินนั้นไม่ได้มาด้วยความบริสุทธิ์เขาก็ได้บุญไม่เต็มที่ ด้วยในใจเขาย่อมรู้อยู่แก่ใจเองว่า เขาควรได้ผลบุญนั้นหรือไม่ เหมือนเราเล่นฟุตบอลใช้กลโกงทำผิดกติกาเพื่อให้ได้ประตู ถามว่าเขาจะได้คะแนนจากการทำประตูนั้นไหม ตัวเขานั้นย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าควรได้ประตูนั้นหรือเปล่า ดังนั้น การทำบุญต้องทำด้วยเจตนาที่ดี ไม่ได้จำกัดว่าทำบุญมากทำบุญน้อย ต้องไม่หวังผลหรือสิ่งตอบแทน เราก็จะได้รับผลบุญนั้นอย่างเต็มที่” พระศรีญาณโสภณ ตอบคำถามทางธรรมที่มีผู้คนสงสัยกันมากที่สุด


นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคำสอน และแนวทางปฏิบัติของพระพุทธศาสนา จะด้วยความไม่รู้หรือการ ตีความจากประสบการณ์ของแต่ละคนก็แล้วแต่สิ่งสำคัญคือ การรู้จักใช้สติ ปัญญา คิดพิจารณา ศึกษาจากการอ่านพระไตรปิฎกโดยตรง และลงมือปฏิบัติอาจจะดีกว่าการศึกษาหาอ่านจากตำราที่ผ่านการตีความจนผิดเพี้ยนไปจากความจริงอีกไม่รู้กี่ช่วง ทำให้เราจะไม่มีวันเข้าใจถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาได้เลย


วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

จะใช้ชีวิตอยู่ อย่างไรดี












คำคม คำคม คำคม คำคม คำคม คำคม คำคม คำคม คำคม คำคม คำคม คำคม คำคม คำคม



รักษาสุขภาพบ้างนะ









































สุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพสุขภาพ

พระราชดำรัส







. ความเพียร
การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละ แต่สำคัญที่สุดคือความอดทนคือไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้นทำมันน่าเบื่อ บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดัง คือดูมันควรทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการทำให้ดีควรต้องมีความอดทน เวลาข้างหน้าจะเห็นผลแน่นอนในความอดทนของตนเอง
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักเรียน นักศึกษา ครู และอาจารย์ในโอกาสเข้าเฝ้าฯวันที่ 27 ตุลาคม 2516
2.
ความพอดี
ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังและความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับพร้อมแล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญก้าวหน้าในระดับสูงขึ้น ตามต่อกันไปเป็นลำดับผลที่เกิดขึ้นจึงจะแน่นอน มีหลักเกณฑ์ เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 18 ธันวาคม 2540
3.
ความรู้ตน
เด็กๆ ทำอะไรต้องหัดให้รู้ตัว การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนมีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้ว จะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่จะสร้างความสำเร็จและความเจริญ ให้แก่ตนเองและส่วนรวมในอนาคตได้อย่างแน่นอน
พระบรมราโชวาท พระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือ วันเด็ก ประจำปี 2521
4.
คนเราจะต้องรับและจะต้องให้
คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 20 เมษายน 2521
5.
อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ
ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 25 มิถุนายน 2496
6.
พูดจริง ทำจริง
ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญ จากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริง จึงเป็นปัจ จัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญ ให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 10 กรกฎาคม 2540
7.
หนังสือเป็นออมสิน
หนังสือเป็นการสะสมความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้สร้างมา ทำมา คิดมา แต่โบราณกาลจนทุกวันนี้ หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เป็นคล้ายๆ ธนาคารความรู้และเป็นออมสิน เป็นสิ่งที่จะทำให้ มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะสมาชิกห้องสมุดทั่วประเทศ ในโอกาสที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท วันที่ 25 พฤศจิกายน 2514
8.
ความซื่อสัตย์
ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็กๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง
พระบรมราโชวาท พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ปี พุทธศักราช 2531
9.
การเอาชนะใจตน
ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใดๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่าชั่วว่าเสื่อม เราต้องฝืนต้องต้านความคิดและความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ ให้ได้จริงๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้นๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ
พระราชดำรัส พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่าน ในพิธีเปิดการประชุม



สิ่งดี ๆ คงไม่เกิดขึ้น หากเราไม่ลงมือทำอะไรดี ๆ หรือเพียงรอรับแต่สิ่งดี ๆ จากผู้คนรอบข้าง...
สังคมดีได้ เพราะคนไทยรู้รักสามัคคี





ด้วย Windows Live คุณสามารถจัดการ แก้ไข และ แบ่งปันภาพถ่ายของคุณ


ด้วย Windows Live คุณสามารถจัดการ แก้ไข และ แบ่งปันภาพถ่ายของคุณ





แบ่งปันความทรงจำกับคนอื่นๆ ที่คุณต้องการทางออนไลน์ได้ คนอื่นๆ ที่คุณต้องการ






--
Miss Surapar Nongling
Marketing Executive
Golden Soft co.Ltd.,
02-503-4402 ext.134

ความรัก กับ การให้อภัย